ฟังวิทยุออนไลน์

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เข้าสู่ระบบการศึกษา 1.4 ล้านคน

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เข้าสู่ระบบการศึกษา 1.4 ล้านคน

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้รายงานผลการดำเนินงานในปี 2565 ให้ครม. รับทราบ โดยภาพรวมสามารถช่วยเหลือเด็ก เยาวชน และประชาชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสให้เข้าถึงการศึกษา ได้ถึง 1,396,208 คน ผ่านการดำเนินงาน ดังนี้

1. มาตรการเร่งด่วน

เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจไทย เช่น

• โครงการพาน้องกลับมาเรียน ของกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านเงินบริจาคจากภาคเอกชน เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา นักเรียนในระดับชั้น ป.6 และ ม. 3 จำนวน 103,987 คน

• การจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษา ช่วยเด็กและเยาวชนที่มีความเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษา จำนวน 302 คน ในพื้นที่ 4 จังหวัดนำร่อง คือ พิษณุโลก ขอนแก่น ยะลา และกรุงเทพมหา นคร

2. การดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมพัฒนา และช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่

2.1 กลุ่มเด็กปฐมวัย (ระดับการศึกษาภาคบังคับชั้น ป.1 - ม. 3)

โครงการพัฒนาระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษา (ทุนเสมอภาค) เพื่อลดอุปสรรคในการเรียนและป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาของเด็กและเยาวชนในวัยเรียน ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึง ม. 3 ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสด้วยการอุดหนุนงบประมาณโดยตรงให้กับผู้เรียน ในสถานศึกษา 5 สังกัด คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 1,307,152 คน

2.2 กลุ่มเยาวชน ในระดับการศึกษา สูงกว่าภาคบังคับ

โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง (เยาวชนอายุระหว่าง 15 - 17 ปี) ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส และสำเร็จการศึกษา ในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ระดับ ปวช. หรือเทียบเท่า ให้ได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาในระดับอาชีวศึกษาและส่งเสริมให้ได้งานทำ เมื่อสำเร็จการศึกษา จำนวน 4 รุ่น รวม 6,599 คน

โครงการทุนพัฒนาเต็มศักยภาพสายอาชีพ (ทุนพระกนิษฐาสัมมาชีพ) เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ กลุ่มเยาวชนในระดับชั้น ปวช. หรือ ปวส. ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่ผลการเรียนดีในระดับประเทศได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษา ในระดับอุดมศึกษา (ป.ตรี-โท-เอก) จำนวน 4 รุ่น รวม 123 คน

2.3 กลุ่มเยาวชน นอกระบบการศึกษา และประชากร วัยแรงงาน

โครงการส่งเสริมโอกาสทางการเรียนรู้และพัฒนาทักษะเยาวชน และแรงงานนอกระบบ (อายุ 15 ปีขึ้นไป) ซึ่งขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส โดยออกแบบกระบวนการเรียนรู้และพัฒนา รูปแบบการจัดการศึกษาโดยชุมชน ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะอาชีพที่มีความจำเป็น ผ่านหน่วยจัดการเรียนรู้ระดับตำบล จำนวน 110 แห่ง ในพื้นที่ 56 จังหวัด

2.4 กลุ่มครู โรงเรียน และหน่วยจัดการเรียนรู้

โครงการสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล แก่ครูรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชน (ครูรัก(ษ์)ถิ่น) เพื่อสร้างโอกาสให้แก่นักเรียนยากจน หรือด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารที่มีผลการเรียนดีและมีจิตวิญญาณความเป็นครูได้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในคณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์และได้รับการบรรจุเป็นครูในโรงเรียนท้องถิ่นของตนเอง จำนวน 3 รุ่น รวม 863 คน

โครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง (โครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง) เพื่อพัฒนาโรงเรียน ครู และบุคลากร ทางการศึกษาทั้งระบบอย่างต่อเนื่องและ เกิดเป็นต้นแบบในด้านต่าง ๆ เช่น การบริหารจัดการและการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ จำนวน 13,281 คน และนักเรียนจำนวน 174,364 คน ได้รับการพัฒนาแล้ว

โครงการพัฒนาครูในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนมุ่งพัฒนาสมรรถนะครู จำนวน 685 คน (ครอบคลุมโรงเรียนที่มีอยู่ 68 แห่ง ใน 22 จังหวัด ครอบคลุมทั่วประเทศ) ให้สามารถจัดการเรียนรู้ เสริมทักษะทางวิชาการและทักษะการใช้ชีวิตรวมทั้งส่งเสริมอาชีพของนักเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ

โครงการต้นแบบการพัฒนาสมรรถนะครูนอกระบบการศึกษา จำนวน 210 คน ส่งผลให้เกิดต้นแบบกลุ่มครูประจำการ ต้นแบบกลุ่มครูนักพัฒนา และต้นแบบกลุ่มครูจิตอาสา

โครงการขยายผลการดำเนินงานเพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้โดยเครือข่ายมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จำนวน 315 คน ซึ่งเป็นการสร้าง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งปันทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญร่วมกัน และการร่วมคิดค้นเครื่องมือหรือกลไกที่สามารถนำไปใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

3. การดำเนินงานเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เช่น การพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการทำงานระดับพื้นที่และการประเมินเพื่อการพัฒนา โดยคาดหวังให้เกิด “แผนบูรณาการระดับจังหวัด” ครอบคลุม 12 จังหวัด ทั่วประเทศ ได้แก่ จ. แม่ฮ่องสอน ลำปาง พะเยา พิษณุโลก สุโขทัย ขอนแก่น สุรินทร์ สมุทรสงคราม ระยอง สุราษฎร์ธานี สงขลา และปัตตานี

4. การวิจัยและนวัตกรรมด้านการศึกษา พัฒนาองค์ความรู้จากการวิจัยและพัฒนา นวัตกรรมด้านการศึกษาเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา รวม 24 ชิ้นงาน ครอบคลุม งานวิจัยด้านนวัตกรรมระบบเทคโนโลยีและข้อมูลสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และงานวิจัยด้านการประเมินผล

โดยการดำเนินงานดังกล่าวได้สร้างผลผลิตสำคัญต่อประชาชนและประเทศ เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาที่สำคัญ เช่น เด็กและเยาวชน ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสได้รับการอุดหนุนเงินเพื่อลดอุปสรรคการเข้าถึงการศึกษาที่สอดคล้องกับความจำเป็นตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทำให้เยาวชนและแรงงานนอกระบบการศึกษาได้รับการช่วยเหลือและกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะวิชาชีพที่เหมาะสม และครู และหน่วยจัดการเรียนรู้ทั้งในและนอกระบบการศึกษาได้รับการพัฒนาคุณภาพทั่วถึง.

---------------------------------


image รูปภาพ
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar