ฟังวิทยุออนไลน์

9 ปีรัฐบาลลุงตู่ ส่งไม้ต่อนายกเศรษฐา
ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รอบสุดท้ายของรัฐบาลรักษาการ ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลชุดใหม่ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยรัฐบาลรักษาการยังคงต้องทำหน้าที่ไปก่อนในส่วนที่ทำได้
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบรรยากาศภายหลังการประชุม ครม.นัดสุดท้ายว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณ ครม. และข้าราชการทุกคน ต่อการทำงานอย่างทุ่มเทของทุกคน ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ร่วมกันทำงาน เพื่อประชาชน และบ้านเมืองด้วยความตั้งใจ ทำให้รัฐบาลที่ผ่านมาได้สร้างรากฐานการพัฒนาไว้หลายด้าน เพื่อปูทางประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สิ่งดี ๆ เหล่านี้หวังว่าจะได้รับการสานต่อจากรัฐบาลใหม่
โดยการประชุม ครม. ได้มีการเสนอวาระตามปกติ แต่จะมีเรื่องที่พิจารณาน้อยลง เพราะจะต้องระมัดระวังในการใช้อำนาจของรัฐบาลรักษาการ ตามมาตรา 169
อำลา นายกฯ คนที่ 29 ผ่านผลงาน 9 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้โพสต์เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-Cha ระบุว่าตลอดระยะเวลา 9 ปี ของการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทยนั้น ได้ทำงานเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ทุ่มเททุกศักยภาพและสานพลังจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชน นับเป็น 9 ปีที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีความเจริญก้าวหน้าในหลายด้านทัดเทียมนานาอารยประเทศ และพร้อมยกระดับไปสู่ประเทศชั้นนำของโลก ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 และความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยได้ยกตัวอย่าง 9 ผลงานสำคัญ ได้แก่
1. ครั้งแรกของประเทศไทยที่มี "ยุทธศาสตร์ชาติ" ระยะยาว 20 ปีเป็นเข็มทิศและแนวทางในการพัฒนาประเทศ
2. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทุกระบบ ต่อยอดความโดดเด่นด้านภูมิศาสตร์สู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ เพิ่มขีดความสามารถของประเทศ
3. สร้างเศรษฐกิจดิจิทัล" และ "เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม" ให้ไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี 5G – Data Center – Clound services ที่สำคัญในภูมิภาค เกิดประโยชน์ด้านการศึกษา อาชีพ และความสะดวกในการใช้ชีวิต
4. สร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมทั้งพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเขตส่งเสริมเศรษฐกิจเพื่อกิจการพิเศษ ทั้งด้านการแพทย์ ด้านนวัตกรรม ด้านดิจิทัล เป็นต้น
5. บูรณาการการบริหารจัดการน้ำทุกระดับ และจัดทำแผนที่ One Map เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน ออกกฎหมายป่าชุมชน ไม้มีค่า และตลาดคาร์บอนเครดิต ส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ
6. ส่งเสริมสวัสดิการกลุ่มเปราะบาง บทบาทกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กองทุนยุติธรรม และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
7. ปฏิรูปกฎหมายไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งแก้ไขและบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น ปลดธงแดง ICAO และแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย IUU
8. ประยุกต์เทคโนโลยีที่ทันสมัยในระบบราชการไทย เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ประชาชนและเอกชน เช่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
9. ฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย เพื่อขยายความร่วมมือและตลาดการค้าระหว่างกัน
ส่งไม้ต่อ เตรียมรับ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อขอคำแนะนำก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพีระพันธุ์สารีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมหารือ
การพบกันของ 2 นายกรัฐมนตรีในช่วงเปลี่ยนผ่าน นับเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่ดี โดยพลเอกประยุทธ์ ได้ฝากฝังว่าการบริหารบ้านเมืองกับการบริหารธุรกิจอาจมีความแตกต่างกัน เพราะมีหลายภาคส่วนที่ต้องคำนึงถึงจึงขอให้ระวัง รวมถึงขอให้ใจเย็น อดทนและยึดมั่นในเรื่องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และนโยบายอะไรที่ดีที่เคยทำไว้ก็ขอให้สานต่อ โดยให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนายเศรษฐา เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านการบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างราบรื่น
นายกฯคนที่ 30 เริ่มเดินหน้าเต็มกำลัง แก้ไขปัญหาประเทศไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน ประเดิมนำทีมคณะนโยบายด้านการท่องเที่ยว ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา เยี่ยมเยียนประชาชนและรับ
ฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน สะท้อนการให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน เพื่อผลักดันภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลก และเป็นรากฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย
การลงพื้นที่ดังกล่าว ได้รับฟังเสียงสะท้อน ทั้งจากผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต รวมถึงผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และเสียงสะท้อนจากนักท่องเที่ยว เพื่อนำมาพัฒนานโยบายด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ได้นำว่าที่ ครม.เศรษฐกิจ หารือร่วมกับ สายการบิน เตรียมรองรับการท่องเที่ยวไตรมาส 4 ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งการเดินทางภายในประเทศของคนไทยในช่วง ไตรมาสสุดท้ายของปี และการเข้ามาของนักท่องเที่ยวที่จะมีวันหยุดยาวสำคัญอย่างวันชาติจีน ซึ่งคาดว่าจะเกิดการเดินทางระหว่างประเทศ และการเดินทางในประเทศจำนวนมาก ดังนั้นอาจต้องปรับเพิ่มตารางการบินให้มีความพร้อมในการเดินทาง รวมทั้งเตรียมเสนอมาตรการจูงใจเพื่อกระตุ้นการเดินทางในช่วงไตรมาศสุดท้ายของปี รัฐบาลชุดใหม่เตรียมผลักดันทันที ภายหลังการถวายสัตย์และแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เสร็จสิ้น
แนวทางการสื่อสาร
1. ยกตัวอย่างผลงานรัฐบาลที่ผ่านมาที่โดดเด่น (1ใน9ข้อ) ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในพื้นที่
2. การเดินหน้ารัฐบาลสลายขั้ว ส่งไม้ต่อในการพัฒนาประเทศ
3. เสียงประชาชนในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ความหวังเศรษฐกิจของประเทศ

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar