ฟังวิทยุออนไลน์

มาตรการสร้างรายได้การท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ

การพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาล ให้ความสำคัญ เพราะการท่องเที่ยวถือเป็นกุญแจดอกแรกในการสร้างรายได้ที่ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก สำหรับมาตรการการท่องเที่ยวนี้สามารถสะท้อนถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยว และส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยม ของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้
ขณะนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยฟื้นตัวกว่า 80% ของช่วงก่อนโควิดแล้ว เหลือแค่นักท่องเที่ยวจีนที่ยังฟื้นตัวไม่ถึง 30% โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทย 1.85 ล้านคนเท่านั้น ตั้งเป้าปีนี้จะดึงนักท่องเที่ยวจีนให้ได้ 5 ล้านคน
หนึ่งในมาตรการ คือ มาตรการเชิงรุกด้านการอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Ease of Traveling) ผ่านมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 18 กันยายน 2566 ซึ่งทั้งสองตลาดถือเป็นตลาดศักยภาพและมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญต่อการฟื้นฟู ภาพรวมการท่องเที่ยวไทย
• คาดการณ์วันชาติจีน นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 21 ล้านคน
ในช่วงวันหยุดยาว “โกลเด้น วีค” ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. ถึง 6 ต.ค. ตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติจีน จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงหยุดยาว คาดว่าจะมีนักเดินทางจำนวนกว่า 21 ล้านคนพึ่งพา เที่ยวบินต่าง ๆ ตลอดวันหยุดยาว 8 วันนี้
มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) จะสามารถกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ให้เดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 4.01 – 4.4 ล้านคนในปี 2566 และผลักดันรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมาย 257,500 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าในช่วง 5 เดือนที่มีมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 2,888,500 คน สร้างรายได้ 140,313 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการฟื้นตัวร้อยละ 62 เมื่อเทียบกับปี 2562
ขณะที่คาดว่านักท่องเที่ยวคาซัคสถานจะเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 150,000 คนในปี 2566 และคาดว่าในช่วง 5 เดือนของการยกเว้นการตรวจลงตราจะมีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจำนวนประมาณ 129,485 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณ 7,930 ล้านบาท
มาตรการดังกล่าวจะช่วยคลี่คลายข้อจํากัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่าย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว กลุ่มทัวร์ และกลุ่ม Incentive ประกอบกับช่วงเวลาดำเนินมาตรการถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ครอบคลุมช่วง Golden week ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องถึงช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ จะยิ่งช่วยผลักดันสู่เป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ตั้งไว้ของปี 2566 จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 - 30 ล้านคน และสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศ ให้กลับมาในอัตราร้อยละ 80 ของปี 2562 ที่ 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายรายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท
ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ย. 66 พบว่าไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอด ทั้งสัปดาห์ (18-24 ก.ย. 66) มีจำนวนทั้งสิ้น 481,404 คน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 68,772 คนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 19,499,116 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 815,597 ล้านบาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย
เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด จำนวน 78,042 คน รองลงมา ได้แก่ จีน (61,728 คน) อินเดีย (30,679 คน) เกาหลีใต้ (29,856 คน) และลาว (24,470 คน)
• คมนาคมเสนอแผนรองรับนักท่องเที่ยว จ. ภูเก็ตและเชียงใหม่
นายกฯ ให้ความสำคัญ Quick Win ใช้จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเกตเวย์ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
ภูเก็ต - นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้กระทรวงคมนาคมทำแผนเพื่อทำให้ภูเก็ตสามารถรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มได้ 5.5 ล้านคน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสะดวกสบาย รวมทั้งการคมนาคมขนส่งจากจังหวัดภูเก็ตไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้ ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะรีบเสนอแผนงานมา โดยด่วน มีทั้งหมด 7 โครงการ เช่น โครงการก่อสร้างขยายช่องทางจราจร ทางหลวง หมายเลข 4027 ช่วง บ.พารา-บ.เมืองใหม่, โครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต โครงการรถไฟฟ้ารางเบา, โครงการทางพิเศษ จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง
เชียงใหม่ – จากการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นายกฯได้หารือ กับผู้อำนวยการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เห็นควรดำเนินการให้ท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ได้ภายในวันที่ 1 พ.ย.2566 เป็นต้นไป โดยให้มีการเพิ่มเที่ยวบินในช่วงหลังเที่ยงคืน เพื่อรองรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวและการให้บริการของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง
นอกจากนี้ คมนาคม ยังมีแผนเร่งพัฒนาบุคลากรให้เพียงพอรองรับ การเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน โดยเฉพาะช่างซ่อมเครื่องบินซึ่งขาดแคลนมาก โดยจะร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษานำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในหลักสูตรการเรียนการสอน รวมทั้งจัดโรดโชว์จูงใจนักศึกษา
• ททท. กำหนดมาตรการส่งเสริมในระยะเร่งด่วน
ททท. ได้กำหนดมาตรการส่งเสริมในระยะเร่งด่วน Quick win 3 เดือน เน้นกระตุ้นการตลาดส่งเสริมการขาย มาตรการปลดล๊อคอุปสรรคการเดินทาง เสริมสร้างภาพลักษณ์ และมาตรการส่งเสริมระยะ Longterm ในการช่วยเหลือและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในการเตรียมความพร้อมตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ และกระแสความยั่งยืน
นอกจากนี้ยังได้กำหนดกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนการตลาดการท่องเที่ยว กระตุ้นการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวกระแสหลัก, ท่องเที่ยวเมืองรอง, เที่ยววันธรรมดา, ส่งเสริมการใช้จ่ายและเที่ยวเทศกาลงานประเพณี ตอกย้ำ Thailand Soft Power ชูจุดแข็งเป็นจุดขายสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ให้สอดคล้อง กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model, SDGs x STGs x STEs พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar