ฟังวิทยุออนไลน์

ข่าวดี ครม. ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแรงงานทั่วประเทศ มีผล 1 ม.ค. 67

ครม. มีมติให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ วันละ 2 - 16 บาท ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เป็นต้นไป
คณะกรรมการค่าจ้าง ยืนยันคำนวณค่าแรงขั้นต่ำตามหลักวิชาการ
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 คณะกรรมการค่าจ้าง มีมติเห็นชอบยืนยันการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2567 ตามมติคณะกรรมการค่าจ้าง เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ตามสูตรการคำนวณที่คณะกรรมการค่าจ้างฯ ได้เห็นชอบให้คณะอนุกรรมการใช้เป็นหลักเกณฑ์การพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทุกจังหวัด โดยใช้หลักวิชาการบนพื้นฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งการพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2567 ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาจากกลไกไตรภาคีระดับจังหวัด และคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ได้รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพื่อให้นายจ้างสามารถประกอบธุรกิจอยู่ได้ ลูกจ้าง มีรายได้จากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น และการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ หรือมีผลทำให้ราคาสินค้าและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อภาวะการครองชีพของประชาชน
ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำขึ้น 17 กลุ่ม ภูเก็ต ค่าแรงสูงสุดในไทย
•กลุ่มที่ 1 อัตรา 370 บาท 1 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต (เดิม 354 บาท)
•กลุ่มที่ 2 อัตรา 363 บาท 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร (เดิม 353 บาท)
•กลุ่มที่ 3 อัตรา 361 บาท 2 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี และระยอง (เดิม 354 บาท)
•กลุ่มที่ 4 อัตรา 352 บาท 1 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา (เดิม 340 บาท)
•กลุ่มที่ 5 อัตรา 351 บาท 1 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม (เดิม 338 บาท)
•กลุ่มที่ 6 อัตรา 350 บาท 6 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (เดิม 343 บาท) สระบุรี ปราจีนบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ (เดิม 340 บาท) และฉะเชิงเทรา (เดิม 345 บาท)
•กลุ่มที่ 7 อัตรา 349 บาท 1 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี (เดิม 340 บาท)
•กลุ่มที่ 8 อัตรา 348 บาท 3 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี หนองคาย (เดิม 340 บาท) นครนายก (เดิม 328 บาท)
•กลุ่มที่ 9 อัตรา 347 บาท 2 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ และตราด (เดิม 340 บาท)
•กลุ่มที่ 10 อัตรา 345 บาท 15 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก (เดิม 332 บาท) กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สระแก้ว นครพนม บุรีรัมย์ พิษณุโลก (เดิม 335 บาท) จันทบุรี มุกดาหาร สกลนคร (เดิม 338 บาท) สุราษฎร์ธานี สงขลา อุบลราชธานี (เดิม 340 บาท)
•กลุ่มที่ 11 อัตรา 344 บาท 3 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร (เดิม 332 บาท) เพชรบุรี สุรินทร์ (เดิม 335 บาท)
•กลุ่มที่ 12 อัตรา 343 บาท 3 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน (เดิม 332 บาท) ยโสธร นครสวรรค์
•กลุ่มที่ 13 อัตรา 342 บาท 5 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (เดิม 332 บาท) บึงกาฬ ร้อยเอ็ด เพชรบูรณ์ (เดิม 335 บาท) และ กาฬสินธุ์ (เดิม 338 บาท)
•กลุ่มที่ 14 อัตรา 341 บาท 5 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี ชัยภูมิ (เดิม 332 บาท) ชัยนาท พัทลุง และอ่างทอง (เดิม 335 บาท)
•กลุ่มที่ 15 อัตรา 340 บาท 16 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี (เดิม 328 บาท) ระนอง สตูล หนองบัวลำภู มหาสารคาม ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานีและราชบุรี (เดิม 332 บาท) เลย อุตรดิตถ์ (เดิม 335 บาท)
•กลุ่มที่ 16 อัตรา 338 บาท 4 จังหวัด ได้แก่ ตรัง แพร่ (เดิม 332 บาท) น่าน (เดิม 328 บาท) พะเยา (เดิม 335 บาท)
•กลุ่มที่ 17 อัตรา 330 บาท 3 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา (เดิม 328 บาท)
มีนาคม 67 ปรับค่าแรงขั้นต่ำอีกรอบ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการพิจารณาขึ้นค่าแรงของคณะกรรมการไตรภาคีว่า จะมีการประชุมอีกครั้งวันที่ 17 มกราคม 2567 เพื่อลงนามแต่งตั้งอนุกรรมการปรับสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ เพื่อการพิจารณาการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างละเอียด โดยจะพยายามกำหนดอัตราใหม่ที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินงานจะต้องแล้วเสร็จเพื่อนำเสนอเข้า ครม. ภายในเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งการขึ้นค่าแรงจำเป็นที่จะต้องดูในเรื่องของรายอำเภอ รายอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar