จากอากาศที่ร้อนจัดติดต่อกันหลายวัน บางวันอุณหภูมิสูงเกือบแตะ 40 องศาเซลเซียส อากาศที่ร้อนจัดไม่ได้ส่งผลกระทบกับพืชผลการเกษตรเท่านั้น ยังส่งผลต่อไก่ไข่ที่เกษตรกรเลี้ยงในจังหวัดหนองคาย ที่มีกว่า 5 แสนตัว ทำให้มีไก่น็อกตายจากอากาศร้อนทุกวัน เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องหาวิธีคลายความร้อนให้กับไก่ที่เลี้ยง โดยเฉพาะเกษตรกรที่เลี้ยงไก่ไข่ในเขตอำเภอศรีเชียงใหม่ ที่เลี้ยงไก่ไข่จำนวน 13 ฟาร์ม ไก่ไข่กว่า 15,000 ตัว ได้คลายความร้อนให้กับไก่โดยติดตั้งระบบปริงเกอร์บนหลังคาโรงเรือนที่เลี้ยงไก่ไข่ เปิดในช่วงที่อากาศร้อน ซึ่งช่วงนี้ต้องเปิดทั้งวันคือตั้งแต่ 08.00 น.- 19.00 น. และถ้าวันไหนร้อนจัดก็เปิดยาวจนถึง 20.00 น. มีการเปิดพัดลมภายในโรงเรือนเพื่อให้ไล่อากาศร้อน นอกจากนี้ยังได้ เปิดเพลงให้กับไก่เพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียดให้กับไก่อีกด้วย ส่งผลให้ไก่ที่เลี้ยงไม่ช็อกตายจากอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ และยังอารมณ์ดี ออกไข่สูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 อีกด้วย

นายจันทร์เรือง ศรีคำ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ บ้านนาโพธิ์ ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ บอกว่า ช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด ตนได้ทำระบบสปริงเกอร์ที่หลังคาโรงเรือนที่เลี้ยงไก่ เพราะไก่ร้อนมากจะทำให้ไก่น็อกตาย ออกไข่น้อยและฟองเล็ก ตอนแรกที่ทำ เสียงเครื่องสูบน้ำค่อนข้างดังไก่ก็ตกใจบ้าง แต่สักพักไก่ก็จะชินไม่ตกใจ อีกทั้งยังได้มีการเปิดเพลงให้ไก่ฟังทุกวันเพื่อเป็นการคลายเครียดให้กับไก่ที่เลี้ยง ให้เป็นไก่อารมณ์ดี ในช่วงที่อากาศร้อนจัดคืออุณหภูมิตั้งแต่ 35 องศาเซลเซียสจะมีผลกับไก่ไข่ที่เลี้ยงทันที ก็จะเปิดสปริงเกอร์ทั้งวัน คือตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 19.00 น. ซึ่งจากประสบการณ์การเลี้ยงไก่ไข่มานานมากกว่า 10 ปี พบว่าไก่ก็ไม่ต่างจากคน อากาศร้อนก็จะเครียดและหงุดหงิด จนทำให้ไก่ช็อกตาย การทำสปริงเกอร์บนหลังคาโรงเรือน และการเปิดเพลงให้ไก่ฟัง ในช่วงที่อากาศร้อนจัด เป็นวิธีการที่ช่วยคลายร้อนและคลายเครียดให้ไก่ไข่ที่เลี้ยงในฟาร์มได้ดีที่สุด ทำให้ไก่ไม่น็อกตาย อัตราการไข่ของไก่ก็ยังเป็นปกติอีกด้วย หากหลายฟาร์มที่ไม่ทำหากอากาศร้อนจัดก็จะทำให้มีไก่ช็อกตายได้ ซึ่งฤดูหนาวเป็นฤดูที่เหมาะกับการเลี้ยงไก่ไข่มากที่สุด เพราะไก่ไข่ชอบอากาศที่เย็นสบาย เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ก็ไม่ต้องเปิดระบบสปริงเกอร์ เป็นการลดต้นทุนการเลี้ยง ประหยัดค่าไฟฟ้า และค่าน้ำมัน ที่ช่วงนี้กำลังแพงอีกด้วย

ทางด้านนายเปรมปรี นนทฤทธิ์ ปศุสัตว์อำเภอศรีเชียงใหม่ กล่าวว่า ไก่ไข่จะไม่มีต่อมเหงื่อที่จะช่วยในการระบายความร้อนเหมือนมนุษย์ นอกจากนั้นก็ยังมีขนที่ปกคลุมที่เป็นอุปสรรคในการระบายความร้อนให้กับร่างกายของไก่ สำหรับแนวทางที่จะลดความร้อนก็ทำได้โดยการทำปริงเกอร์บนหลังคาโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ในส่วนของการให้อาหารก็ให้มีการปรับเวลาเป็นในช่วงเช้า ๆ เพราะช่วงเช้าอากาศจะเย็น ไก่ก็จะกินอาหารได้มาก คือช่วงเวลา 06.00 น. – 07.00 น. ส่วนในช่วงเย็นก็จะเลื่อนไปเป็นช่วง 17.00 น.- 18.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนจัดแล้ว น้ำที่ให้ไก่กินก็ควรจะเพิ่มวิตามินและกรดอะมิโนที่จำเป็นเพิ่มมากขึ้น เพราะช่วงฤดูร้อนไก่กินอาหารได้น้อยลง ที่จะส่งผลต่อคุณภาพของไข่ ที่อาจจะเปลือกบาง เปลือกย่น และปริมาณการออกไข่ลดลง โรคของไก่ไข่ในช่วงอากาศร้อนคือโรคความเครียดจากความร้อน ถ้าอุณหภูมิสูง ๆ เกิน 39 องศาเซลเซียส ก็จะทำให้ไก่ตายได้ ส่วนสัตว์อื่น ๆ เช่นโค กระบือ หรือสุกร ในช่วงฤดูร้อนก็ให้เตรียมพร้อมในเรื่องของอาหาร และน้ำ ให้เพียงพอ ซึ่งพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ ๆ มีความอุดมสมบูรณ์ไม่ขาดแคลนในเรื่องน้ำ.

------------------------------------------------

จุมพล สายแวว / ภาพ - ข่าว

วิภาดา รัตนโรจนา / บรรณาธิการข่าว